ในตลาดคริปโต สภาพคล่องและผลตอบแทนมักถูกมองว่าเป็นเป้าหมายที่ขัดแย้งกัน อย่างไรก็ตาม StakeStone นำเสนอทางออกเชิงนวัตกรรมในฐานะโครงสร้างพื้นฐานด้านสภาพคล่องข้ามเชน โดยใช้โทเค็นประจำแพลตฟอร์มอย่าง STO เพในตลาดคริปโต สภาพคล่องและผลตอบแทนมักถูกมองว่าเป็นเป้าหมายที่ขัดแย้งกัน อย่างไรก็ตาม StakeStone นำเสนอทางออกเชิงนวัตกรรมในฐานะโครงสร้างพื้นฐานด้านสภาพคล่องข้ามเชน โดยใช้โทเค็นประจำแพลตฟอร์มอย่าง STO เพ
เรียนรู้/โซนโทเค็นฮอต/แนะนำโปรเจกต์/StakeStone ...อบแทนสูงสุด

StakeStone (STO) คืออะไร? เจาะลึกแพลตฟอร์มสภาพคล่องข้ามเชนที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด

16 กรกฎาคม 2025MEXC
0m
Stakestone
STO$0.12309+1.78%
SBTC
SBTC$89,478.54-2.94%
Ethereum
ETH$3,030.7-2.60%
Bitcoin
BTC$89,643.85-1.52%
LandRocker
LRT$0.000043-10.41%

ในตลาดคริปโต สภาพคล่องและผลตอบแทนมักถูกมองว่าเป็นเป้าหมายที่ขัดแย้งกัน อย่างไรก็ตาม StakeStone นำเสนอทางออกเชิงนวัตกรรมในฐานะโครงสร้างพื้นฐานด้านสภาพคล่องข้ามเชน โดยใช้โทเค็นประจำแพลตฟอร์มอย่าง STO เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยสามารถบรรลุทั้งสภาพคล่องในระดับสูงและผลตอบแทนที่เหมาะสม บทความนี้พาไปดูจุดเด่นของ StakeStone และแนวทางที่แพลตฟอร์มนี้กำลังนิยามสภาพคล่องใหม่ในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล

แนวคิดหลักและผลิตภัณฑ์ของ StakeStone


StakeStone เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านสภาพคล่องข้ามเชนที่ล้ำสมัย ซึ่งนำเสนอสินทรัพย์ STO และ SBTC ซึ่งเป็นตัวแทนของสินทรัพย์ ETH และ BTC ในรูปแบบที่มีสภาพคล่อง ด้วยการสนับสนุนจากเครือข่ายการสเตกแบบไดนามิก แพลตฟอร์มนี้สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสินทรัพย์ที่ถูกล็อกกับความต้องการด้านสภาพคล่องในโมเดลการสเตกแบบดั้งเดิมได้ โดย StakeStone มีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องหลัก 3 ประเภท ได้แก่
  • STONE ETH: สินทรัพย์ ETH ที่มีสภาพคล่องและสร้างผลตอบแทนได้
  • SBTC: สินทรัพย์ BTC ที่มีสภาพคล่องและสามารถใช้งานได้ข้ามเชน
  • STONEBTC: เวอร์ชัน BTC ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้

ต่างจากโปรโตคอลการสเตกอื่น ๆ StakeStone อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ทุกเมื่อบนบล็อกเชนที่รองรับ โดยไม่ต้องมีระยะเวลาล็อก ทำให้เกิดสภาพคล่องข้ามเชนอย่างแท้จริง

ปัญหาหลักที่ StakeStone แก้ไข


StakeStone นำเสนอนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาหลัก 4 ประการในตลาดคริปโต
1)ความขัดแย้งระหว่างการล็อกสินทรัพย์กับสภาพคล่อง: การสเตกแบบดั้งเดิมบังคับให้ผู้ใช้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการรับผลตอบแทนหรือการคงไว้ซึ่งสภาพคล่อง ในขณะที่ StakeStone ช่วยให้สามารถทำได้ทั้งสองอย่างพร้อมกัน
2)สภาพคล่องที่กระจัดกระจาย: StakeStone รวมพูล LRT หลากหลายเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
3)ความท้าทายของเลเยอร์ 2 และบล็อกเชนที่รองรับ EVM: StakeStone ช่วยให้เลเยอร์ 2 และบล็อกเชนใหม่สามารถดึงดูดสภาพคล่องของ ETH ได้
4)ความซับซ้อนในการพัฒนาและเชื่อมระบบ: แพลตฟอร์มช่วยให้นักพัฒนาสามารถผสานโทเค็น LRT ได้ง่ายขึ้น

นับตั้งแต่เปิดตัวเครือข่ายทดสอบ (testnet) ในเดือนกรกฎาคม 2023 StakeStone ได้มีความก้าวหน้าอย่างมาก รวมถึงมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) มากกว่า 310,000 ETH (ประมาณ 870 ล้านดอลลาร์สหรัฐ), ผู้ใช้งานกว่า 96,000 ราย และการผสานรวมสำเร็จกับโปรโตคอลมากกว่า 10 แห่ง

โทเค็น STO: การใช้งานและกรณีการนำไปใช้ในระบบ


ในฐานะโทเค็นหลักด้านการกำกับดูแลระบบนิเวศของ StakeStone โทเค็น STO มีบทบาทหลายประการ ได้แก่
1)การกำกับดูแล: ผู้ถือโทเค็นสามารถลงคะแนนในข้อเสนอสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาแพลตฟอร์ม
2)ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น: การล็อกโทเค็น STO จะได้รับ veSTO ซึ่งช่วยปลดล็อกสิทธิ์ในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
3)กลไกรีเซ็ตตามฤดูกาล: ช่วยให้การกำกับดูแลเป็นธรรม โดยป้องกันไม่ให้ผู้ถือระยะยาวครอบงำข้อเสนอ
4)การเข้าถึงสินทรัพย์สำรองผ่านการสว็อปและเบิร์น: สร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือ STO
5)ความสามารถในการใช้งานข้ามบล็อกเชน: ใช้งานได้อย่างราบรื่นในหลายเครือข่าย
6)ประสิทธิภาพของเงินทุนที่ดีขึ้น: สามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟโดยไม่กระทบต่อสภาพคล่อง

แอปพลิเคชันของ StakeStone ประกอบด้วย STONE-Fi (ตลาดสภาพคล่องข้ามเชน), LiquidityPad (แพลตฟอร์มเปิดตัวสภาพคล่องข้ามเชน), และ Stone.Pay (โซลูชันการชำระเงินแบบ DeFi ที่ล้ำสมัย) ซึ่งมอบเครื่องมือที่ครบครันสำหรับการจัดการสภาพคล่องให้กับผู้ใช้งาน

ข้อได้เปรียบหลักของ StakeStone เมื่อเทียบกับคู่แข่ง


เมื่อเทียบกับบริการสเตกแบบลิควิดอย่าง Lido และ Rocket Pool แล้ว StakeStone มีข้อได้เปรียบหลักหลายประการ ได้แก่
1)โซลูชันข้ามเชนแบบครบวงจร: ผสานการสเตกแบบลิควิด ความสามารถในการใช้งานข้ามเชน และการเพิ่มประสิทธิภาพของผลตอบแทนรวมเข้าด้วยกัน
2)รองรับสินทรัพย์หลากหลาย: รองรับทั้ง ETH และ BTC เพื่อมอบตัวเลือกสภาพคล่องที่หลากหลาย
3)สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์: ช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์พื้นฐานได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการถือครองโทเค็น STO ของผู้ใช้
4)ประสบการณ์การใช้งานข้ามเชนอย่างไร้รอยต่อ: สามารถเข้าถึงและใช้งานสินทรัพย์บนหลากหลายบล็อกเชนได้ โดยยังคงได้รับผลตอบแทนจากสินทรัพย์ต้นทาง
5)กลยุทธ์เพิ่มผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพ: เพิ่มผลตอบแทนโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้จัดการเอง
6)การเชื่อมโยงเชิงลึกกับระบบนิเวศ: สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับระบบนิเวศที่เกิดใหม่ เช่น Berachain, Linea, Monad และ Plume
7)โมเดลการกำกับดูแลเชิงนวัตกรรม: ใช้ระบบการกำกับดูแลแบบเกจ (gauge-based) ร่วมกับกลไกการรีเซ็ตตามฤดูกาล เพื่อให้กระบวนการตัดสินใจเป็นธรรม

วิธีการซื้อ STO บน MEXC


MEXC เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับการซื้อโทเค็น STO โดยมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่นและสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน สามารถซื้อ STO ได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

1)สร้างบัญชี MEXC: เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ MEXC และดำเนินการสมัครสมาชิกให้เสร็จสมบูรณ์
2)ฝากเงิน: ฝาก USDT หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เข้าบัญชี MEXC ของคุณ
3)ค้นหาคู่เทรด STO: พิมพ์ “STO” ในแถบค้นหา และเลือกคู่เทรด STO/USDT
4)วางคำสั่งซื้อ: เลือกจำนวน STO ที่คุณต้องการซื้อ และยืนยันการทำรายการ

ในฐานะแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำระดับโลก MEXC มีสภาพคล่องสูง อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ จึงทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อโทเค็น STONE

StakeStone กำลังกำหนดนิยามใหม่ของสภาพคล่องในโลกคริปโตด้วยโครงสร้างพื้นฐานข้ามเชนที่ล้ำสมัย โดยการผสานการเข้าถึงสภาพคล่องเข้ากับการเพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุด STO และ SBTC จึงมอบคุณค่าที่เหนือกว่าให้กับผู้ใช้งาน และเมื่อระบบ DeFi ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในหลายบล็อกเชน StakeStone ก็มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อระบบนิเวศบล็อกเชนเข้าด้วยกัน


ต้องการรับ STO โทเค็นฟรีไหม? ตอนนี้ MEXC กำลังจัดกิจกรรมแอร์ดรอป StakeStone โดยมีรางวัลรวมสูงถึง 130,000 USDT! เพียงแค่ทำภารกิจฝากเงินและเทรดง่าย ๆ คุณก็มีโอกาสลุ้นรับรางวัลมากมายนี้

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหานี้มิได้เป็นคำแนะนำด้านการลงทุน ภาษี กฎหมาย การเงิน การบัญชี ที่ปรึกษา หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด อีกทั้งไม่ได้เป็นการแนะนำให้ซื้อ ขาย หรือถือครองสินทรัพย์ใด ๆ ทั้งสิ้น MEXC Learn จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลประกอบการศึกษาเท่านั้น มิได้เป็นคำแนะนำในการลงทุนในรูปแบบใด กรุณาศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน การตัดสินใจลงทุนทั้งหมดถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้งานแต่เพียงผู้เดียว และไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับแพลตฟอร์ม


บทความยอดนิยม

สิ่งที่ผู้ใช้ใหม่ต้องอ่าน! คำถามที่พบบ่อย 11 ข้อเกี่ยวกับการเทรดสปอตบน MEXC

สิ่งที่ผู้ใช้ใหม่ต้องอ่าน! คำถามที่พบบ่อย 11 ข้อเกี่ยวกับการเทรดสปอตบน MEXC

เมื่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีพัฒนาอย่างรวดเร็ว การเทรดแบบสปอตได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่นักลงทุนหลายคนเลือกใช้ในการเข้าสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น การเทรดแบบสปอตมีข้อดีเช่น มีอุปสรรคในการเ

ประเภทต่างๆ ของคำสั่งซื้อขายแบบ Spot

ประเภทต่างๆ ของคำสั่งซื้อขายแบบ Spot

แพลตฟอร์ม MEXC มีคำสั่งซื้อขายแบบสปอตสี่ประเภท: คำสั่งซื้อขายแบบจำกัด (Limit Orders), คำสั่งซื้อขายแบบตลาด (Market Orders), คำสั่งทำกำไร/ตัดขาดทุน (Take-Profit/Stop-Loss Orders) และคำสั่ง OCO (One-Can

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทั่วไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทั่วไป

1. เข้าสู่ระบบ1.1 ฉันจะเข้าสู่ระบบได้อย่างไรเมื่อไม่สามารถเข้าถึงหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรืออีเมลของฉันได้?หากคุณจำรหัสผ่านการเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ:บนเว็บ: ในหน้าเข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการ ให้ป้อนบัญชี

คำสั่ง Take-Profit/Stop-Loss คืออะไร? เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับการจัดการความเสี่ยงและการล็อคกำไรของคุณ

คำสั่ง Take-Profit/Stop-Loss คืออะไร? เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับการจัดการความเสี่ยงและการล็อคกำไรของคุณ

1. คำสั่ง Take-Profit/Stop-Loss คืออะไร? คำสั่ง Take-Profit/Stop-Loss ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งราคาทริกเกอร์ล่วงหน้า พร้อมกับราคาและปริมาณที่ต้องการซื้อหรือขายเมื่อถึงราคาทริกเกอร์ เมื่อราคาตลาดล่าสุดถึ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Eclipse: โซลูชันเลเยอร์ 2 แบบรวมที่ผสานรวม Ethereum และ Solana

Eclipse: โซลูชันเลเยอร์ 2 แบบรวมที่ผสานรวม Ethereum และ Solana

Eclipse เป็นโซลูชันเลเยอร์ 2 แรกบน Ethereum ที่จะทำงานภายในสภาพแวดล้อม Solana Virtual Machine (SVM) สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการรองรับการโต้ตอบที่รวดเร

MilkyWay: เชื่อมโยงความปลอดภัยของบล็อกเชน สู่การขับเคลื่อนระบบนิเวศแบบโมดูลาร์

MilkyWay: เชื่อมโยงความปลอดภัยของบล็อกเชน สู่การขับเคลื่อนระบบนิเวศแบบโมดูลาร์

ระบบนิเวศของบล็อกเชนในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่กระจัดกระจาย โดยแต่ละโปรเจกต์และแต่ละเชนมักดำเนินการอย่างอิสระ มีเครือข่ายผู้ตรวจสอบธุรกรรม และระบบการวางสเตกกิงของตนเอง ส่งผลให้

ประเภทต่างๆ ของคำสั่งซื้อขายแบบ Spot

ประเภทต่างๆ ของคำสั่งซื้อขายแบบ Spot

แพลตฟอร์ม MEXC มีคำสั่งซื้อขายแบบสปอตสี่ประเภท: คำสั่งซื้อขายแบบจำกัด (Limit Orders), คำสั่งซื้อขายแบบตลาด (Market Orders), คำสั่งทำกำไร/ตัดขาดทุน (Take-Profit/Stop-Loss Orders) และคำสั่ง OCO (One-Can

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทั่วไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทั่วไป

1. เข้าสู่ระบบ1.1 ฉันจะเข้าสู่ระบบได้อย่างไรเมื่อไม่สามารถเข้าถึงหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรืออีเมลของฉันได้?หากคุณจำรหัสผ่านการเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ:บนเว็บ: ในหน้าเข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการ ให้ป้อนบัญชี

ลงทะเบียนบน MEXC
ลงทะเบียนและรับโบนัสสูงถึง 10,000 USDT